รัฐบาลออสเตรเลียได้ย้ายไปสร้างพื้นที่คุ้มครองทางทะเลใหม่สองแห่งที่ครอบคลุมมหาสมุทรที่กว้างใหญ่เป็นสองเท่าของอุทยานทางทะเล Great Barrier Reef
เบลล์
สวนสาธารณะทั้งสองแห่งจะถูกสร้างขึ้นรอบๆ เกาะคริสต์มาสและหมู่เกาะโคโคส (คีลิง) ในมหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย สวนสาธารณะแห่งใหม่นี้ครอบคลุมมหาสมุทร 740,000 ตารางกิโลเมตร (286,000 ตารางไมล์)
การตัดสินใจนี้ได้รับการต้อนรับจากกลุ่มอนุรักษ์ทันที
มิเชลล์ เกรดี้ ผู้อำนวยการ The Pew Charitable Trusts กล่าวว่า “คริสต์มาสและหมู่เกาะโคโคส (คีลิง) มีเอกลักษณ์เฉพาะของออสเตรเลียและมีความสำคัญทั่วโลก ไม่มีที่ไหนเหมือนบนโลกใบนี้ “เกาะคริสต์มาสที่โด่งดังที่สุดสำหรับการอพยพย้ายถิ่นประจำปีของปูแดง เกาะคริสต์มาสได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน 10 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกโดย David Attenborough ป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์ ชายหาดรกร้าง และแนวปะการังเป็นแนวราบทำให้เป็นที่พำนักของนกทะเล ปูบก และสัตว์ทะเลที่หายากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
ซีอีโอของ
Australian Marine Conservation Society กล่าวว่า “คริสต์มาสและหมู่เกาะโคโคส (คีลิง) ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญระดับโลก” “มหาสมุทรทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอย่างลึกซึ้งจากมลภาวะ การตกปลามากเกินไป การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย และผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงในทันทีจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การจัดตั้งอุทยานทางทะเล
เพื่อให้เป็นที่หลบภัยสำหรับสัตว์ทะเลของเรามีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยหยุดมหาสมุทรของเราให้ถึงจุดเปลี่ยน”
Christabel Mitchell ผู้อำนวยการกลุ่ม Save Our Marine Life Alliance ปรบมือให้กับการเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียทำงาน “ร่วมกัน” กับชุมชนในท้องถิ่นเพื่อ “ร่วมออกแบบ” พื้นที่คุ้มครอง
ที่ลอยได้หยุดนกทะเลจากการดำน้ำในอวนจับปลา
“มหาสมุทรที่มีสุขภาพดีและการประมงที่ยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวเกาะโคโคสในเทศกาลคริสต์มาสและหมู่เกาะโคโคส” Mitchell กล่าวในแถลงการณ์
“การสร้างอุทยานทางทะเลระดับโลกสำหรับภูมิภาคนี้จะให้การปกป้องที่สำคัญสำหรับชีวิตทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ มีส่วนสำคัญระดับโลกต่อสุขภาพของมหาสมุทรของเรา
และสนับสนุนวัฒนธรรมและแรงบันดาลใจ
ของชุมชนท้องถิ่น” มิตเชลล์กล่าว “เราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลและชุมชนเกาะเพื่อรักษาพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียนี้ไว้ เพื่อชีวิตทางทะเลของเราและคนรุ่นต่อไปในอนาคต”